รีวิว Vacation Cafe KhonKaen คาเฟ่ลับ บึงทุ่งสร้างขอนแก่น

คาเฟ่ที่นี่เริ่มจากการไม่มีระบบไฟฟ้า และน้ำประปาเข้าถึง จึงได้เริ่มหาวิธีเพิ่งพาตนเอง โดยนำไฟฟ้ามาจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ อาศัยพลังงานแสงอาทิตย์ในการสูบน้ำขึ้นกรองบนหลังคาในยามเช้า และใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อให้ความสว่างในยามค่ำคืน จึงเป็นร้านสุดคลาสสิค และอินดี้แห่งหนึ่งที่ผู้คนกล่าวถึง

อาหาร และเครื่องดื่ม

อาหารที่ร้านนำเสนอคือ พิซซ่าเตาดิน ขอนแก่น เป็นพิซซ่าที่อบจากเตาดินที่ร้านปั้นเตาขึ้นเอง แล้ว ใช้ฟืนที่มีอยู่ตามต้นไม้รอบร้านมาเป็นเชื้อเพลิง เอกลักษณ์เฉพาะจึงเป็นพิซซ่าที่หอมเตาดิน และกลิ่นฟืน ส่วนประกอบสำคัญคือแป้งโฮมเมดจากทางร้านที่ทำการหมักเอง และซอสที่ทำการปรุงเองจากมะเขือเทศสด และเครื่องปรุงฝรั่งสูตรเฉพาะ ทำให้พิซซ่าเตาดินแห่งนี้มีเสน่ห์ที่ลงตัวเป็นอย่างมาก

ส่วนเครื่องดื่มนั้นมีทั้ง ชา กาแฟ นม โซดา และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยวิธีการชงจะใช้หม้อต้มที่เรียกว่าโมกาพอต เป็นวิธีสกัดชา หรือกาแฟสไตล์อิตาลี ทำให้ได้กลิ่นที่หอมฟุ้งเป็นอย่างมาก ถึงทั้งยังมีเสน่ห์ความคุ้มค่าของการรอที่ประทับใจอีกด้วย

คาเฟ่บ้านดิน ขอนแก่น

อย่างที่กล่าวข้างต้น เมื่อร้านไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทำให้การปลูกสิ่งก่อสร้างเป็นเรื่องที่ยาก เจ้าของร้านจึงเกิดแนวคิดทำบ้านดินขึ้นมา โดยนำดิน ฟาง และแกลบ มาผสมกัน แล้วปั้นเป็นอิฐดินทีละก้อน จนได้มากพอที่จะก่อสร้างบ้านหลังหนึ่ง ทำเป็นพื้นที่บาร์ไว้ชงเครื่องดื่มให้กับลูกค้า และให้ผู้คนมาแวะเวียนเยี่ยมชม แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องบ้านดิน และเตาดิน นอกจากจะได้ลูกค้าแล้ว ยังได้เพื่อนใหม่หลากหลายช่วงวัยเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

รีวิวบรรยากาศ Vacation Cafe ขอนแก่น

ที่ร้านเน้นพื้นที่จากธรรมชาติ เพิ่งพาธรรมชาติให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาว ร้อน ฝน บรรยากาศก็จะพาให้เสน่ห์ของร้านเปลี่ยนไปตามฤดูกาลนั้นด้วย อย่างเช่นฤดูหนาว จะมีการก่อเตาล้อมวงสนทนากับลูกค้า บางคนอาจไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ทุกคนจะชวนกันมานั่งล้อมวงพูดคุย และเล่นกีต้าร์ ร้องเพลงสร้างสัมพันธ์กัน

หน้าร้อน ช่วงกลางวันจะมีลมพัดผ่านมา ทำให้รู้สึกเย็นสบาย ลูกค้าที่ออกมาร้านช่วงกลางวันมักบอกว่าอยู่ห้องตัวเองไม่ได้ เพราะอากาศร้อน แต่มาที่ร้านทำให้รู้สึกเย็น และหายใจโล่ง เพราะได้สูดอากาศบริสุทธ์ อีกทั้งช่วงเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าฝั่งตรงข้ามร้าน ชัดสวยงามมาก บ้างพระอาทิตย์กับอยู่บนยอดตก บ้างก็อยู่ริมน้ำ แสงที่กระทบกันของพระอาทิตย์กับแม่น้ำนั้นทำให้เราเหมือนหยุดเวลาได้ในชั่วขณะ อีกทั้งสีของท้องฟ้าจะเปลี่ยนไปไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน นับเป็นเสน่ห์มหัสจรรย์ของพื้นที่แห่งนี้จริงๆ

ส่วนหน้าฝนนั้นจะให้บรรยากาศชวนสงบ และเย็นสบาย ได้เห็นดอกไม้ที่เคยแห้งเหี่ยวกลับมาผลิดอกอีกครั้ง เห็นทางเดินที่เต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ได้สูดบรรยากาศของกลิ่นไอดินที่กำลังชุ่มฉ่ำ ที่หาได้ไม่ไกลจากในเมือง พื้นที่แห่งนี้จึงได้ขนานนามอีกอย่างว่า “ป่ากลางเมือง”